เมื่อพูดถึงเฟรนช์ริเวียร่า นอกจากทะเลสีคราม หาดทรายขาว และบรรยากาศอันสวยสะกดแล้ว ยังนับว่าเป็นแหล่ง ท่องเที่ยวที่มีร้านอาหารชั้นดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ไปจนถึงร้านอาหารนั่งสบายๆ ริมชายหาด เฟรนช์ริเวียร่าถือได้ว่าเป็นสวรรค์สำหรับเหล่านักชิมเลยก็ว่าได้
วันนี้เราจึงขอนำเสนอ 5 ร้านอาหารที่สายชิมและสาย ถ่ายรูปไม่ควรพลาดกันค่ะ
1. La Chevre d'Or (Eze)
เริ่มกันที่ร้านแรกอย่าง La Chèvre d'Or ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ แต่สุดแสนจะน่ารักอย่าง Eze ร้านอาหารร้านนี้มีประวัติมาอย่างยาวนานเพราะเปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1953 โดยตัวร้านจะตั้งอยู่บนผาที่ท่านจะสามารถรับชมวิวทะเลเมดิเตอเรเนียนได้อย่างเต็มตา ทำให้ร้านนี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นตัวเลือกสำหรับโอกาสพิเศษหรือดินเนอร์อันแสนโรแมนติก นอกจากวิวทิวทัศน์ที่งดงามแล้ว ร้านนี้ยังมีรางวัลการันตีอย่างมิชลินสองดาวและยังเป็นร้านที่มีชื่อเสียงสำหรับการรังสรรค์เมนูด้วยความคิดสร้างสรรค์โดยการใช้วัตถุดิบที่สดใหม่และคุณภาพเยี่ยมจากละแวกใกล้เคียงอีกด้วย โดยเมนูที่แนะนำของร้านนี้ที่ทั้งสร้างสรรค์และแสนอร่อยที่พลาดไม่ได้คือ พิราบย่างกับใบไทม์ป่าสอดไส้ด้วยฟัวกราส์ และ กุ้งลังกู้สตีนเสริฟพร้อมกับผลไม้ตระกูลไซตรัสและผักชี สำหรับอาหารแบบคอร์สจะสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 190 ยูโรต่อท่าน สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาร้านอาหารที่มีทั้งวิวทิวทัศน์ที่งดงามและรสชาติเยี่ยม La Chèvre d'Or นับว่าเป็นร้านอาหารที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนเฟรนช์ริเวียร่า
2. Elsa (Monte Carlo)
ร้านอาหารอีกร้านที่เราอยากจะแนะนำคือร้าน Elsa ซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรม Monte Carlo Beach Hotel ที่จะพาคุณไปสัมผัสกับประสบการณ์การทานอาหารแบบออแกนิกที่ได้รับการรับรองโดย Ecocert ให้เป็นร้านอาหารหนึ่งเดียวในโลกที่ใช้วัตถุดิบแบบออแกนิก 100% ด้วยความที่ทางร้านมีแนวคิดในการรักษาความยั่งยืนและใช้เพียงแต่วัตถุดิบที่ไม่เพียงแต่สดที่สุดแต่ยังเป็นวัตถุดิบที่หาได้ละแวกใกล้เคียงและยังเป็นร้านที่ขึ้นชื่อด้านเมนูมังสวิรัติอีกด้วย จึงเป็นร้านที่ได้รับความนิยมจากผู้ที่รักสุขภาพและใส่ใจในความยั่งยืนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ทางร้านยังได้รับการการันตีด้วยมิชลินระดับ 1 ดาว อีกด้วย โดยเมนูแนะนำของร้านนี้ที่พลาดไม่ได้เลยคือ Sea Urchin Cappuccino และ ปลาดอลลี่เสริฟพร้อมกับอาร์ติโชคและกระเทียมดำ สำหรับอาหารแบบคอร์สจะสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 110 ยูโรต่อท่าน ร้าน Elsa นับได้ว่าเป็นตัวเลือกที่พลาดไม่ได้สำหรับผู้ที่มองหาร้านอาหารที่มีความคิดสร้างสรรค์และใส่ใจในความยั่งยืน ที่มาพร้อมกับวิวทิวทัศน์อันสวยงามของ เฟรนช์ริเวียร่า
3. Joël Robuchon (Monte Carlo)
Joël Robuchon ห้องอาหารซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมสุดหรู Hotel Metropole Monte-Carlo และเป็นห้องอาหารฝรั่งเศส ระดับมิชลิน 3 ดาวที่มีชื่อเสียงอย่างยิ่ง นอกจากตัวร้านจะตกแต่งอย่างหรูหราโอ่อ่าแล้ว การบริการระดับอย่างสมบูรณ์แบบยังช่วยยกระดับการสัมผัสกับประสบการณ์สุดหรูไปอีกขั้น สำหรับเมนูของทางร้านจะเป็นสไตล์ฝรั่งเศสแบบคลาสสิกแต่ยังมีการใช้ความคิดสร้างสรรค์สมัยใหม่มาแต่งแต้มอย่างลงตัว โดยเมนูซิกเนอเจอร์ที่แนะนำของที่นี่คือ Le Homard หรือเมนูล็อปเตอร์แสนอร่อย หรือจะเป็น Le Black Cod หรือปลาคอตที่ปรุงอย่างดีด้วยชอสที่มีส่วนผสมของขิง นอกจากนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านอาหารสุดหรู ทางร้านเองก็มีไวน์ให้เลือกสรรมากกว่า 800 ชนิด สำหรับอาหารแบบ คอร์สจะสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 210 ยูโรต่อท่าน ถ้าหากท่านกำลังมองหาร้านอาหารสุดหรูแสนอร่อยเพื่อทำให้ทริปของท่าน สมบูรณ์แบบมากขึ้น อย่าลืมให้ Joël Robuchon เป็นหนึ่งในลิสต์ร้านที่ต้องไปเยือนให้ได้นะคะ
4. Mirazur (Menton)
ต่อกันที่อีกร้านที่ได้รับการการันตีด้วยมิชลินระดับ 3 ดาว ที่ตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่อยู่ระหว่างพรมแดนฝรั่งเศสและอิตาลีอย่าง Menton ด้วยสถานที่ตั้งที่เป็นเอกลักษณ์ที่สามารถมองวิวทะเลเมดิเตอเรเนียนได้อย่างสุดลูกหูลูกตานอกจากนี้ยังโอบล้อมไปด้วยสวนผักออแกนิก ซึ่งต่างเป็นแรงบัลดาลใจให้กับการรังสรรค์ อาหารรสเลิศที่ผสมผสานทั้งอาหารฝรั่งเศสและอาหารอิตาเลี่ยนได้อย่างลงตัวด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่จากท้องที่ โดยเมนูซิกเนเจอร์ที่แนะนำของร้านนี้คือ กุ้งลังกู้สตีนเสริฟพร้อมกับคาเวียร์และเนื้อแกะย่างเสริฟพร้อมกับอาร์ติโชค สำหรับอาหารแบบคอร์ส แบบฟูลเทสติ้งเมนูของทางร้านจะสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 260 ยูโรต่อท่าน ซึ่งถือว่าราคาแทบจะสูงที่สุดในย่านนี้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามด้วยอาหารรสเลิศ วิวทิวทัศน์ที่ยากจะเลียนแบบ และบริการอันสมบูรณ์แบบ ทำให้ที่นี้สามารถเป็นสวรรค์ ของนักชิมตัวยงได้ไม่ยาก
5. Le Louis XV - Alain Ducasse (Monte Carlo)
และร้านอาหารสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดที่เราไม่อยากให้คุณพลาดคือร้านอาหารสุดหรูที่ตั้งอยู่ในโรงแรมหรู Hotel de Paris Monte Carlo อย่าง Le Louis XV ร้านอาหารร้านนี้ไม่เพียงขึ้นชื่อในความหรูแบบจัดเต็ม แต่ยังมาพร้อมกับบริการชั้นเลิศและไวน์ที่คัดสรรมาจากไร่ไวน์ระดับพรีเมี่ยมจากทุกมุมโลกให้เลือกกว่า 400,000 ขวด ที่คอไวน์ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ด้วยคุณภาพอาหารและบริการชั้นเยี่ยม ทางร้านยังได้รับการันตีด้วยมิชลินระดับ 3 ดาว อีกด้วย โดยเมนูที่แนะนำและไม่ควรพลาดคือ ปลาในทะเลเมดิเตอเรเนียนเสริฟพร้อมกับใบยี่หร่าแบบกงฟีหรือการตุ๋นในน้ำมันแบบฝรั่งเศสดั้งเดิม และแก้มวัวที่ตุ๋นกับมะกอกรสชาติเยี่ยมที่ปรุงด้วยวัตถุดิบชั้นยอด สำหรับอาหารแบบคอร์สของร้านนี้จะสนนราคาอยู่ที่ 270 ยูโร ต่อท่าน สำหรับท่านใดที่กำลังมองหาร้านอาหารที่ไม่เพียงแต่เสริฟอาหารที่มีรสเลิศเท่านั้นแต่ยังมีบริการระดับเยี่ยมและ การตกแต่งอันตระการตา Le Louis XV นับได้ว่าเป็นร้านที่ท่านไม่ควรพลาดเลยค่ะ
เฟรช์ริเวียร่านับได้ว่าเป็นสวรรค์แห่งนักชิมเลยก็ว่าได้ ด้วยร้านอาหารที่หลากหลายที่เสริฟตั้งแต่อาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม หรือร้านอาหารที่เสริฟอาหารแบบเมดิเตอเนียนทีทั้งสดและมีรสชาติเยี่ยม ถ้าหากคุณต้องการเยือนเฟรนช์ริเวียร่าเมื่อใด อย่าลืมให้ Silver Voyage Club =j;pทำให้ทริปของคุณเป็นเดินทางที่น่าจดจำนะคะ
Photo Credits:
- Michelin Guide
- CNA Luxury
- Aumra Yachts & Lifestyle
Comentários